คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ เสนอ 3 แนวทางแก้ปัญหารับสิทธิซ้ำซ้อน ชะลอเรียกเงินคืน-เยียวยาผู้รับสิทธิและเจ้าหน้าที่-ปรับปรุงกฎหมาย
5 ก.พ.2564ิ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 เพื่อพิจารณาเรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่มีความซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น โดยมี นายวิชัย โชควิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้สูงอายุฯ คณะผู้บริหารกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมฯว่า ที่ประชุมฯมีการพิจารณากรณีของการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่มีการใช้สิทธิซ้ำซ้อน โดยที่ประชุมฯได้มีความเห็นดังนี้ 1.ให้ที่คณะกรรมการเสนอต่อนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ชะลอการเรียกเงินซ้ำซ้อนคืนไว้ก่อน 2.เห็นควรให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้เสนอแนวทางเยียวยาผู้รับสิทธิและเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการโดยสุจริตต่อไป 3.คณะกรรมการเห็นควรให้มีการตั้งคณะทำงานอีกชุด โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณา ปรับปรุง และแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ ที่มีนายวิชัย โชควิวัฒน์ เป็นประธาน
รวมถึงได้ดำเนินการพิจารณาเรื่องสิทธิซ้ำซ้อนกับเบี้ยผู้สูงอายุว่าควรมีกลุ่มใดบ้างที่ควรได้รับสิทธิซ้ำซ้อน นอกเหนือจากสิทธิพิเศษยังสามารถรับสิทธิจากเบี้ยผู้สูงอายุได้ด้วย เช่น กรณีผู้ตรวจการให้คำแนะนำว่า กลุ่มบำนาญพิเศษเป็นต้น เหล่านี้เป็นเรื่องที่คณะอนุกรรมการต้องพิจารณา เพื่อนำไปสู่การพิจารณาเชิงนโยบายต่อไป นอกจากนี้คณะรัฐมนตรีต้องหาแนวทางต่อไปสำหรับผู้ดำเนินการโดยสุจริตว่าจะดูแลอย่างไร
เบื้องต้นคณะกรรมการฯเห็นว่าผู้ที่รับเบี้ยยังชีพไปแล้ว ถ้ารับโดยสุจริตก็ควรจะได้รับการดูแล สำหรับกรณีอื่นๆที่เข้าสู่กระบวนการทางกฏหมายไปแล้วนั้น ขอให้รอทางคณะรัฐมนตรีมีมติอีกครั้งเสียก่อน
อย่างไรก็ตามในวันที่ 10 ก.พ.จะมีการประชุมอนุกรรมการพิจารณา ปรับปรุง และแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านผู้สูงอายุ ที่บ้านราชวิถี ในช่วงบ่าย
ทางด้านกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวต่อว่า ขณะนี้กลุ่มที่รับเงินซ้ำซ้อนได้มีการคืนเงินแล้ว 6,700 ราย อยู่ระหว่างการดำเนินการแล้วประมาณ 5,000 ราย ซึ่งล่าสุดทางกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งให้ชะลอการเรียกเงินผู้สูงอายุคืนกรณีซ้ำซ้อนไว้ก่อนเพื่อรอมติจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง