🔹 สิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้มีอยู่ก่อนเจ้ามรดกถึงแก่ความตาย เมื่อเจ้ามรดกตายต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่ได้รู้ถึงความตาย ⚖️
🔹 อายุความ 1 ปีที่เจ้าหนี้ได้รู้หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดกต้องได้รู้อย่างแน่นอนและมีหลักฐานยืนยันได้ ⚖️
📣 คำพิพากษาศาลฏีกาที่ :4578/2556
โจทก์เป็นผู้ค้ำประกันหนี้ค่าเช่าซื้อที่ ส. มีอยู่ต่อบริษัท ม. ต่อมาโจทก์ได้ชำระหนี้ที่ ส. มีอยู่แก่บริษัท ม. หลังจากที่ ส. ถึงแก่ความตาย โจทก์จึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิของการเป็นเจ้าหนี้แทนบริษัท ม. ที่จะฟ้องไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของ ส. ผู้ตาย สิทธิไล่เบี้ยของโจทก์เพิ่งมีขึ้นในวันที่โจทก์ชำระหนี้แก่บริษัท ม. อันเป็นเวลาหลังจากที่ ส. ถึงแก่ความตาย โจทก์จึงมิใช่มีฐานะเป็นเจ้าหนี้ในอันที่จะใช้สิทธิไล่เบี้ยอยู่ในขณะที่ ส. ถึงแก่ความตาย เพราะสิทธิไล่เบี้ยของโจทก์เกิดขึ้นหลังจากการตายของ ส. ผ่านพ้นไปแล้ว อายุความในการใช้สิทธิไล่เบี้ยของโจทก์ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะจึงมีอายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 จะนำอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 1754 วรรคสาม ซึ่งเป็นอายุความสิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้มีต่อเจ้ามรดกมาใช้ไม่ได้
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง : ป.พ.พ.มาตรา 193/30,1754
🔹 สัญญากู้เงินระหว่างโจทก์กับ ส.ไม่ได้กำหนดเวลาชำระต้นเงินคืนไว้ โจทก์เรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน อายุความนับวันถัดจากวันทำสัญญากู้ ป.พ.พ. มาตรา 203 เมื่อ ส.ถึงแก่ความตาย โจทก์ต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่ได้รู้ถึงความตาย เมื่อโจทก์เบิกความว่า ส.ตายเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2548 และโจทก์อยู่ช่วยงานศพด้วย โจทก์ฟ้องทายาท ส.เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 พ้นกำหนด 1 ปี ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความตามป.พ.พ.มาตรา 1754 ฎีกา 8811/2556
🔹 โจทก์มีหนังสือทวงถามให้ ก. ชำระหนี้ ตามใบตอบรับไม่มีผู้รับแต่มีข้อความระบุไว้ที่ชองจดหมายว่า ก.ถึงแก่ความตายแล้วโดยไม่ปรากฎว่าใครเป็นผู้แจ้งลงวันที่ 22 มกราคม 2545 กรณีดังกล่าวถือว่ายังไม่เป็นการแน่นอนว่า ก.ถึงแก่ความตาย แต่เมื่อโจทก์ตรวจสอบทางทะเบียนราษฏร์เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2546 ระบุว่า ก.ถึงแก่ความตาย จึงต้องฟังว่าโจทก์รู้ว่า ก.ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2546 เมื่อโจทก์นำคดีนี้มาฟ้องวันที่ 2 มีนาคม 2547 ยังไม่พ้น 1 ปี ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความตาม ป.พ.พ.มาตรา 1754 ฎีกา 13384/2558
เวลาท่านนักกฏหมายและท่านทนายความมีหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้แบบไปรษณีย์ตอบรับหน้าชองจดหมายจะมีการปั้มระบุเหตุแห่งการส่งไม่ได้เพราะอะไรไว้ ตามฏีกา 133384/2548 ถือว่าผู้ส่งยังไม่ทราบเป็นการแน่นอน แต่หากมีการตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนราษฏร์ ถือว่าได้รู้แน่นอนและมีหลักฐานยืนยัน แต่อย่างไรก็ตามท่านนักกฎหมายท่านทนายความต้องอย่าชล่าใจ ตรวจสอบและต้องฟ้องทันที ป้องกันการขาดอายุความ อันจะก่อให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้น ต่อตัวความและต่อตนเอง
เครดิต : แอดมินกลุ่ม”เพื่อนนักกฏหมายไทย” >> สุวดี/หนุ่ม นิติ/ต่อ ณัฐพงศ์/บัลลังก์